ถาม - ตอบ เกี่ยวกับปลั๊กบึก (Giant Cat Fish)
คำถาม | ใช้บึกแล้วจะยืดอายุการใช้งานคอมเพรสเซอร์และปั๊มน้ำได้นานแค่ไหน? | |
คำตอบ | 30% ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ แต่คุณภาพในการป้องกันก็เท่าตัว หากสภาพไฟฟ้าแย่จริงๆ | |
คำถาม | หากปั๊มน้ำวางไว้นอกอาคาร แล้วปลั๊กบึกสามารถวางไว้นอกอาคารด้วยได้หรือไม่ ปลั๊กบึกกันน้ำได้หรือไม่? | |
คำตอบ | ตัวกล่องของปลั๊กบึกทำจากเหล็ก หากมีความจำเป็นต้องวางไว้นอกอาคาร ควรหากล่องกันน้ำใช้ในการป้องกันปลั๊กบึกด้วย | |
คำถาม | ซื้อปลั๊กบึกรุ่น 6 แอมป์ หรือ 10 แอมป์ไป 1 ตัว เพื่อต่อกับปลั๊ก 3 ตา สำหรับใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายๆ ชิ้นได้หรือไม่? | |
คำตอบ | ใช้ได้ แต่ต้องคำนึงถึงด้วยว่า อุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงนั้นกินกระแสเกินกำลังของปลั๊กบึกหรือไม่ | |
คำถาม | กรณีที่ปลั๊กบึงพังจะทราบได้อย่างไร และส่งซ่อมที่ไหน? | |
คำตอบ | อาการเสียมี 2 สาเหตุหลัก คือ 1) เสียบปลั๊กบึกแล้วไฟแสดงสถานะไม่ขึ้น 2) เสียบปลั๊กบึกแล้วเข็มมิเตอร์ที่หน้าปัทม์ปลั๊กขึ้น แต่ไฟแสดงสถานะต่างๆ บนหน้า ปัทม์ปลั๊กบึกไม่ขึ้น หากเกิดกรณีนี้ ให้ส่งซ่อมที่ สำนักงานใหญ่ หรือศูนย์บริการพันธุ์ทิพย์พลาซ่า | |
คำถาม | ปลั๊กบึก รับประกันกี่ปี? | |
คำตอบ | ปลั๊กปึก รับประกัน 1 ปี | |
คำถาม | ปั๊มน้ำบางยี่ห้อ มีระบบป้องกัน ไฟตก - ไฟเกิน อยู่แล้ว ทำไมต้องใช้ปลั๊กบึก จำเป็นหรือไม่? | |
คำตอบ | หากปั๊มน้ำเป็นระบบ Inverter ไม่จำเป็นต้องใช้ปลั๊กบึก แต่หากเป็นปั๊มน้ำแบบธรรมดาใช้ปลั๊กบึกในการป้องกันจะคุ้มค่ากว่า | |
คำถาม | หากปลั๊กบึกตกกระแทกกับพื้นแล้วเอาไปเสียบใช้งานจะมีอันตรายหรือไม่? | |
คำตอบ | ต้องดูตามสภาพ แต่เนื่องจากตัวกล่องเป็นเหล็ก จึงค่อนข้างแข็งแรง ทนทานอยู่แล้ว แต่หากการตกกระแทกนั้น ทำให้มิเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าปัทม์ปลั๊กบึกเกิดความเสียหาย หรือชำรุด ขอแนะนำให้ส่งซ่อมน่าจะดีกว่า | |
คำถาม | ปลั๊กแบบนี้มีอยู่หลายยี่ห้อในท้องตลาด แล้วปลั๊กบึกดีกว่ายี่ห้ออื่นอย่างไร? | |
คำตอบ | 1) มีมิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้า 0-300V ทำให้เห็นแรงดันไฟขาเข้าตลอดเวลา 2) มีระบบ Auto Restart ที่หน่วงเวลาได้ 3 นาที หรือ 10 วินาที ก่อนจ่ายไฟแบบอัตโนมัติ | |
คำถาม | หากปลั๊กบึกเสีย ใช้เวลาในการซ่อมนานหรือไม่ และหากมาส่งซ่อมด้วยตัวเอง สามารถรอรับกลับได้เลยหรือไม่? | |
คำตอบ | ใช้เวลาในการซ่อม 2 วันทำการ นับจากวันที่บริษัทได้รับสินค้าที่ส่งมาซ่อม แต่หากมาส่งซ่อมด้วยตัวเอง และจะรอรับสินค้ากลับเลย ทางบริษัทยินดีซ่อมให้ทันที ยกเว้นกรณีที่ไม่มีอะไหล่ | |
คำถาม | จุดเด่น/จุดด้อย ความแตกต่างระหว่างปลั๊กบึกกับ Octopus คือ? | |
คำตอบ | 1) ปลั๊กบึกเน้นสำหรับป้องกันอุปกรณ์ที่เป็นมอเตอร์ หรือคอมเพรสเซอร์ แต่ Octopus เน้น สำหรับป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ 2) ปลั๊กบึกป้องกัน ไฟตก - ไฟเกินได้ แต่ป้องกันไฟกระชากไม่ได้ ส่วน Octopus ป้องกันได้ทั้ง ไฟตก - ไฟเกิน และไฟกระชาก 3) ปลั๊กบึกไม่มีวงจรกรองสัญญาณรบกวน แต่ Octopus มีวงจรกรองสัญญาณรบกวน 4) ปลั๊กบึกมีมิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้า แต่ Octopus ไม่มีมิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้า | |
คำถาม | พื้นที่ที่อยู่ไม่ค่อยพบปัญหา ไฟตก - ไฟเกิน นานๆ จะพบสักครั้ง จำเป็นต้องใช้ปลั๊กบึกหรือไม่? | |
คำตอบ | จำเป็น เนื่องจากถ้าเกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ ก็ทำให้เสียงาน รวมถึงระยะเวลาในการส่งซ่อมอุปกรณ์นั้นๆ ก็อาจใช้เวลานาน หรืออาจทำให้เสียเงินซื้อใหม่ ทั้งๆ ที่ใช้อุปกรณ์นั้นๆ ยังไม่คุ้มค่า | |
คำถาม | หากปลั๊กบึกเสีย หรือใช้งานไม่ได้ อันเนื่องมาจากผลของการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน บริษัทจะเปลี่ยนสินค้าตัวใหม่ให้หรือไม่? | |
คำตอบ | บริษัทรับเปลี่ยนสินค้าภายใน 7 วัน หากเกินกำหนด จะเข้าสู่กระบวนการเคลมสินค้าแทน | |
คำถาม | หากมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกินขนาด 10 แอมป์ แต่มีความต้องการที่จะนำปลั๊กบึก ไปป้องกันเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัย บริษัทรับออกแบบ หรือผลิตรุ่นพิเศษหรือไม่? | |
คำตอบ | บริษัทยินดีรับผลิต แต่ควรมีจำนวน | |
คำถาม | เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช่มอเตอร์ หรือคอมเพรสเซอร์ เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง ฯลฯ สามารถใช้กับปลั๊กบึกได้หรือไม่ หรือมีปลั๊กรุ่นไหนที่เหมาะสมกว่าปลั๊กบึก? | |
คำตอบ | ใช้ได้ หากมีความรู้สึกกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาไฟฟ้า แต่บริษัทขอแนะนำว่า กรณีที่จะป้องกันเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่ไม่ใช่มอเตอร์ หรือคอมเพรสเซอร์ ควรใช้ Octopus ในการป้องกันจะเหมาะสมกว่า | |
คำถาม | ปลั๊กบึก ป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างไรบ้าง? | |
คำตอบ | 1) ป้องกัน ไฟตก - ไฟเกิน โดยตัดไฟ เมื่อไฟตกต่ำกว่า 175V หรือเกินกว่า 265V 2) มีระบบ Auto Restart ที่หน่วงเวลาก่อนจ่ายไฟ ช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย ช่วย ยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟ้า 3) มีระบบหน่วงเวลา 2 วินาที ก่อนตัดไฟ ป้องกันการตัดไฟที่เร็วเกินไป 4) ป้องกันปัญหาต่างๆ ของมอเตอร์ เช่น โรเตอร์ไม่หมุน เนื่องจากกำลังไฟไม่พอ หรือไหม้ อัน เนื่องมาจาก ไฟตก - ไฟเกิน 5) ป้องกันปัญหาการ เปิด - ปิด เครื่องทำความเย็นผิดวิธี โดยผู้ใช้ไม่ได้ระวัง หรือไม่รู้วิธี 6) มีจุดต่อสายดิน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน | |
คำถาม | ปลั๊กบึก เหมาะสมจะใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าใดบ้าง? | |
คำตอบ | 1) เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทมอเตอร์ เช่น ปั๊มน้ำ จักรเย็บผ้า เครื่องบด เครื่องนวดแป้ง เป็นต้น 2) เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทคอมเพรสเซอร์ เช่น ตู้แช่ เครื่องทำความเย็น เป็นต้น 3) เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป | |
คำถาม | ข้อควรระวังในการใช้ปลั๊กบึกคือ? | |
คำตอบ | ระวัง! อย่าให้ปลั๊กบึกโดนน้ำ และอย่าให้หน้าปัทม์มิเตอร์ได้รับความกระทบกระเทือน | |
คำถาม | ปลั๊กบึกสามารถต่อใช้งานร่วมกับกล้องวงจรปิดได้หรือไม่? | |
คำตอบ | ไม่เหมาะสมจะต่อใช้งานร่วมกับกล้องวงจรปิด | |
คำถาม | ปลั๊กบึกสามารถใช้ร่วมกับมอเตอร์ที่เป็นระบบ Inverter ได้หรือไม่? | |
คำตอบ | ไม่เหมาะสม เนื่องจากระบบ Inverter ค่อนข้างดีอยู่แล้ว |
ถาม - ตอบ เกี่ยวกับ Octopus
คำถาม | Octopus คืออะไร | |
คำตอบ | Octopus คืออุปกรณ์ป้องกันและถนอมเครื่องใช้ไฟฟ้าของท่านจากกระแสไฟฟ้าผิดปกติ เช่น กระแสไฟกระชาก, แรงดันสไปก์จากฟ้าผ่า, สัญญาณรบกวน, ไฟตก-ไฟเกิน, ไฟติดๆ ดับๆ | |
คำถาม | ไฟกระชาก คือ อะไร | |
คำตอบ | คือ สภาวะแรงดันไฟฟ้าสูงขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ อาจเกิดจากฟ้าผ่า, อุปกรณ์ไฟฟ้าหยุดทำงานแล้วกลับมาทำงานใหม่อีกครั้งกระทันหัน พื้นท | |
คำถาม | ป้องกันแรงดันสไปก์จากฟ้าผ่า แล้วถ้าฟ้าผ่า Octopus จะพังหรือเปล่า | |
คำตอบ | ขึ้น อยู่กับความรุนแรงของฟ้าที่ผ่ามา ถ้าผ่ามาในบริเวณใกล้เคียงและความแรงไม่เกินกว่า 1000 จูลส์ Octopus ก็ยังไม่พัง แต่ถ้าเกินกว่านั้นก็พังได้ แต่ Octopus นะครับที่จะพังแทนเพื่อปกป้องอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงของคุณ เพราะหน้าที่หลักของ Octopus คือตายแทนครับ และเมื่อ Octopus พังแล้วคุณก็สามารถส่งเข้ามาซ่อมที่บริษัทได้เลยครับ | |
คำถาม | Octopus ต่างกับปลั๊ก 199 บาทอย่างไร | |
คำตอบ | ถาม แบบนี้ถ้าตอบสั้นๆก็บอกได้เลยว่า “คนละเรื่อง” เลยครับ ก็เหมือนกับรถยนต์แหละครับ คันไหนก็พาไปถึงปลายทางได้เหมือนกัน แต่ทำไมจึงมีคนซื้อรถยนต์ราคาหลายล้าน แทนที่จะซื้อคันละไม่กี่แสนบาท | |
คำถาม | Octopus คือ UPS อย่างหนึ่งใช่ไหม (ถ้าไม่ใช่ต่างกับ UPS อย่างไร) | |
คำตอบ | ไม่ใช่ครับ UPS เหมือนน้ำมันก๊อก 2 ถ้าใครขับรถตอนน้ำมันหมด แต่ Octopus เหมือนกับกันชนหน้ารถ | |
คำถาม | UPS ก็บอกว่าป้องกันไฟกระชาก ดีกว่าอีกทั้งสำรองไฟทั้งกันไฟกระชากด้วย | |
คำตอบ | UPS ที่บอกว่าป้องกันไฟกระชากนั้น สังเกตุได้จะไม่ค่อยบอกสเปคละเอียดว่ากันได้เท่าไหร่ ที่เราสำรวจมากันได้สูงสุดก็เพียง 300 จูลส์ เปรียบเหมือนใช้อลูมิเนียมอย่างบางมาทำกันชน แต่ Octopus เรารับแรงได้ 1,057-2,856 จูลส์ เปรียบเหมือนใช้เหล็กกล้าอย่างหนามาทำกันชน เวลากระแทกแรงๆเข้ามาที่จะทำให้อุปกรณ์พัง UPS ก็แทบไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าฟ้าผ่าลูกใหญ่ UPS ก็รับไม่ไหว | |
คำถาม | ถ้าไฟตกแล้วตัด ข้อมูลก็หายหมดน่ะสิ แล้วจะมีประโยชน์อะไร ใช้ UPS ดีกว่า | |
คำตอบ | ควร จะใช้ Octopus ร่วมกับ UPS ใช้กับคอมพิวเตอร์ คือ ให้ UPS ปกป้องซอฟต์แวร์และข้อมูลให้ Save งานทัน และให้ Octopus ปกป้องฮาร์ดแวร์ราคาแพงที่เราซื้อมาให้ใช้ได้คุ้มค่านานๆ | |
คำถาม | ถ้าซื้อไปใช้กับ UPS ต้องเสียบอะไรก่อนอะไรหลัง เพราะอะไร | |
คำตอบ | เสียบ Octopus เข้ากลับเต้ารับข้างผนังบ้านก่อน แล้วเอา UPS มาเสียบที่ Octopus อีกที จากนั้นค่อยนำคอมพิวเตอร์มาเสียบที่ UPS เพื่อให้ Octopus เป็นตัวป้องกันได้ทั้ง UPS และ คอมพิวเตอร์ด้วย | |
คำถาม | Octopus ต่างกับ Stabilizer อย่างไร | |
คำตอบ | แบบ นี้ต้องขอเทียบกับรุ่น S-600V ครับเพราะมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน หลักการทำงานของ Stabilizer คือไม่ว่าแรงดันไฟขาเข้าจะสูงหรือต่ำกว่า 220 โวลต์ Stabilizer | |
คำถาม | มีปลั๊กที่ทั้งสำรองไฟและกันกระชากในตัวมั้ย | |
คำตอบ | ยังไม่มีครับ ถ้าทำออกมาราคาคงสูงพอควร ตอนนี้ถ้าอยากใช้คงต้องซื้อ Octopus ไปเสียบพ่วงกับ UPS ก่อนนะครับ | |
คำถาม | รุ่น มีข้อแตกต่างกันอย่างไร | |
คำตอบ | ทุก รุ่น มีวงจรพื้นฐานเรื่องความปลอดภัย คือ ป้องกันไฟกระชาก และฟ้าผ่า รวมถึงกรองสัญญาณรบกวนและสามารถตรวจสอบระบบ Ground ได้เหมือนกัน แต่จะมีจุดเด่นต่างกันไป | |
คำถาม | ถ้าใช้กับคอมพิวเตอร์ควรจะใช้รุ่นไหน | |
คำตอบ | ขึ้น อยู่กับสภาพปัญหาของเรา ทุกรุ่นกันไฟกระชากคล้ายกันหมดแต่ Option เสริมต่างกัน ใช้รุ่น A ก็เหมาะเพราะเวลาปิดอุปกรณ์เป็นชุดจะสะดวกมาก แต่ถ้ามีปัญหาไฟตกไฟเกินบ่อยๆ ควรใช้รุ่น V ร่วมกับ UPS แต่ถ้างบน้อยหน่อยแต่ต้องการความปลอดภัยก็รุ่น N ครับ | |
คำถาม | ใช้กับสาย LAN, ADSL ได้หรือเปล่า | |
คำตอบ | ใช้ได้กับ ADSL และสายโทรศัพท์ได้เพราะเป็นรูเสียบแบบ RJ11 แต่สาย LAN เป็น RJ45 จะใช้ไม่ได | |
คำถาม | ไม่ใช่ปลั๊กธรรมดา | |
คำตอบ | เพราะ ไม่ใช่ปลั๊กธรรมดา แต่เป็นอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากคุณภาพสูง มีอุปกรณ์และวงจรอิเล็คทรอนิกส์เพื่อความปลอดภัยหลายชั้นและใช้อะไหล่คุณภาพ ดี และคำว่าแพงคงจะวัดยาก | |
คำถาม | ถ้าคอมพิวเตอร์จอเป็นเส้นๆ ปลั๊กนี้จะช่วยให้หายหรือเปล่า | |
คำตอบ | กรณี นี้อาจเกิดจากสัญญาณรบกวนที่เข้ามาทางสายไฟ มีลูกค้าที่ใช้แล้วหายเหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความถี่ที่รบกวน ถ้าอยู่ในย่าน 10 Kh - 100 Kh ก็จะกรองได้ดีมากเพราะตัวกรองของเราออกแบบมาอย่างนั้น แต่ถ้าเป็นเส้นๆตอนมือถือดัง จะเกิดจากคลื่นความถี่รบกวนในอากาศ จะไม่เกี่ยวกับระบบการกรองสัญญาณของ Octopus | |
คำถาม | มีรับประกันความเสียหายมั้ยถ้าใช้แล้วคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ต่อพัง (UPS ยังมีเลย) | |
คำตอบ | ที่ UPS มีเพราะเป็นนโยบายการตลาดของเขา ต้องไปอ่านเงื่อนไขโดยละเอียดในการชดใช้ค่าเสียหายของเขาด้วย ถ้าฟ้าผ่าลงแรงๆอุปกรณ์ 2 แสนบาทพัง เขาก็มีเงื่อนไขที่อาจจะไม่จ่ายก็ได้ แต่เขาบอกประกันไว้ก่อนเพราะอยากให้ซื้อของเขา แต่ของ Octopus ไม่ได้ทำตลาดแบบนั้น แต่อุปกรณ์ทุกตัวเราทดสอบได้ และมีการทดสอบก่อนออกขาย หากเกิดไฟกระชากตามสเปคที่กำหนดก็จะทำงานอย่างแน่นอน ขายไปแล้วหลายพันตัว ลูกค้าใช้ดีก็บอกต่อกัน บางคนใช้แล้ว MOV ก็ระเบิดแต่อุปกรณ์ตู้สาขาโทรศัพท์เขาไม่พังเขาก็ดีใจ เขาซื้อไปใช้เพิ่มเรื่อยๆ | |
คำถาม | อุปกรณ์ไอทีส่วนใหญ่ราคาก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร ซื้อ Octopus คุ้มกับมูลค่าของหรือ | |
คำตอบ | ถ้า มองความคุ้มที่มูลค่าของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง การซื้อ Octopus มาป้องกันก็อาจจะดูราคาแพง แต่อย่าลืมว่าภายในคอมพิวเตอร์นั้นมีทั้งซอฟต์แวร์และข้อมูลที่จัดเก็บไว้ ซึ่งถ้าโดนฟ้าผ่าเปรี้ยงเดียวแล้วเครื่องพังไปเลย |
ถาม - ตอบ เกี่ยวกับ Surge Protector for Telephone Line
คำถาม: | ตู้สาขา (PABX) มีระบบป้องกันไฟกระชากอยู่แล้ว ทำไมต้องเพิ่มระบบป้องกันอีก |
คำตอบ: | ใน ระบบป้องกันตู้ PABX ทั่วไป ส่วนมากก็ยังเกิดความเสียหายกับอุปกรณ์บนเมนบอร์ดอยู่เมื่อเกิดไฟกระชากเข้า มา การเปลี่ยนแผงวงจรแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ถ้ามีการป้องกันอีกชั้นจะปลอดภัยและประหยัดมากกว่า |
คำถาม: | ระบบป้องกันของ Octopus S-341T และ S-381T ดีกว่าระบบป้องกันที่ใช้กันอยู่ทั่วไปอย่างไร |
คำตอบ: | ระบบ ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปมักมี Gas Arrestor หรือ MOV 1 ตัวในการป้องกัน หรือที่มักเรียกว่า “ตัวกันฟ้า” แต่ ระบบป้องกันของ Octopus มีการป้องกันถึง 3 ชั้น 1.ระบบป้องกันไฟกระชาก (Surge) ใช้ Thyristor สามารถป้องกันไฟกระชากที่รุนแรงไม่มากแต่ป้องกันได้อย่างรวดเร็ว 2.ระบบป้องกันแรงดันเกิน (Over Voltage) ใช้อุปกรณ์ Gas Arrestor ชนิด Failsafe-Heavy Duty สามารถป้องกันไฟกระชากและแรงดันสไปก์จากฟ้าผ่าได้ถึง 20KA 3. ระบบป้องกันกระแสเกิน (Over Current) ใช้อุปกรณ์ PTC ความต้านทานต่ำช่วยป้องกันกระแสเกินอีกชั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณสมบัติทั้ง 3 ข้อนี้ช่วยป้องกันตู้ PABX ได้สูงสุด และยังมีระบบป้องกันไฟกระชากในระบบไฟ AC ให้อีกด้วย |
คำถาม: | ป้องกันได้กี่คู่สาย |
คำตอบ: | Octopus รุ่น S-381T สามารถป้องกันไฟกระชากในสายโทรศัพท์ได้ 8 คู่สาย ส่วน S-341T ได้ 4 คู่สาย |
คำถาม: | รูปแบบการติดตั้งเป็นอย่างไร |
คำตอบ: | Telephone Line → Octopus → PABX → โทรศัพท์ |
คำถาม: | ป้องกันไฟกระชากได้สูงสุดเท่าใด |
คำตอบ: | ในระบบคู่สายโทรศัพท์สามารถป้องกันได้ 20kA ต่อวงจร และในระบบไฟ AC ป้องกันได้ 105kA |
คำถาม: | Octopus มีการป้องกันทั้ง 2 ระบบในตัวเดียวกัน หากเกิดฟ้าผ่าในระบบไฟ AC จะมีผลกระทบกับระบบโทรศัพท์หรือไม |
คำตอบ: | ไม่ มีครับ เพราะทั้ง 2 ระบบได้รับการออกแบบมาให้ทำงานคนละวงจรกัน ประกอบกับมีระบบ Ground มาให้ด้วยแล้วผลกระทบที่อาจเกิดกับระบบโทรศัพท์เป็นไปได้น้อยมาก |
คำถาม: | หากเกิดฟ้าผ่าตรงๆ ลงมา Octopus มีโอกาสเสียหายหรือไม่ |
คำตอบ: | แม้ Octopus ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ถ้าเจอฟ้าผ่าลงมาตรงๆ ก็อาจเสียหายได้ครับ ดังนั้นการใช้ก็เพื่อลดความเสียหายเหมือนการผ่อนหนักให้เป็นเบา แทนที่ตู้ PABX จะพังก็กลายเป็น Octopus พังแทน ก็เหมือนบ้านที่มีผนังบ้านป้องกันอยู่แล้ว แต่เพิ่มกำแพงป้องกันอีกชั้นหนึ่งย่อมปลอดภัยกว่า |
คำถาม: | รับประกันสินค้ากี่ปี |
คำตอบ: | สินค้า Octopus รับประกัน 2 ปีครับ ระหว่างนี้หากสินค้ามีปัญหาก็ส่งซ่อมได้ที่ศูนย์บริการ สนญ. โทร. 02 693-1748 หรือ ศูนย์บริการสาขาพันธุ์ทิพย์พลาซ่า โทร. 02 255-6910 |